วันพุธ, กุมภาพันธ์ 21, 2550

ชาญวิทย์ ผลชีวิน ทางเลือกระหว่างชาติกับเงินตรา

เป็นที่ประจักแล้วว่า “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน เลือกที่จะคุมทีม​ฟุตบอล​ในลีกเวียดนามมากกว่าที่จะเป็น​กุนซือใหญ​่ทีมชาติไทย​ต่อไป เงินไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง แต่ซื้อ​โค้ชหรั่ง​ให้ไปจาก​ทีมชาติไทย​ได้

สำหรับผม เหตุการณ์นี้เป็นจุดที่บอกถึงความ​ตกต่ำ​ถึงขีดสุดของ​ฟุตบอลไทย หลังจากที่เราเสียนักเตะฝีเท้าดีไปให้​วีลีก(และ​เอสลีก) หลายต่อหลายคน คราวนี้เป็นคราวของ​หัวหน้าโค้ช เราไม่ได้เสียคนไปให้ประเทศที่ทีม​ฟุตบอล​มี​มาตราฐาน​ระดับสากลโลก เช่นทีมใน​ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น แต่เป็นประเทศ​เวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้าน​ที่​ด้อยพัฒนา​เหมือนกัน แต่ดูจะเห็นได้ชัดว่า ด้อยพัฒนา​ของเค้านั้น“กำลังพัฒนา”อยู่จริงๆ ไม่ใช่“ด้อยพัฒนา”ในแบบที่“ไม่พัฒนา”อย่างวงการฟุตบอลไทย

จากข่าว
ซึ่งต้องยอมรับว่าข้อเสนอของ​ทีมน้องใหม่​ลีกเหงียน​น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขาพร้อมที่จะจ่ายตามที่ตนได้เสนอไปทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น​เงินเดือน​ที่ตกประมาณ 4 แสนบาท บวก​โบนัสแข่งขัน และ​สวัสดิการ​ทั้ง บ้านพัก-รถยนต์ รวมถึงอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งข้อเสนอแบบนี้ตนคิดว่าไม่มี​โค้ชมืออาชีพ​ที่ไหนจะปฏิเสธได้ลง เพราะถือเป็น​ค่าจ้าง​โค้ช​ที่สูงที่สุดในบอล​ลีกเวียดนาม​แล้ว

ถ้าเอา​ผลตอบแทน​ในรูปแบบของ​เงินตรา​เป็นตัวตั้งในการ​ตัดสินใจ​แล้ว คงยากที่จะปฏิเสธจริงๆ แต่ถ้าเอา​ประเทศชาติ​เป็นตัวตั้งแล้ว คงไม่มี​โค้ช​รักชาติ​ที่ไหนจะรับงานนี้ได้เช่นกัน

เมืองด่องทับ เพิ่งได้รับการสถาปนาเป็น​จังหวัดใหม่​ของ​เวียดนาม ดังนั้น จึงมีงบประมาณมหาศาลในการ​พัฒนากีฬา ซึ่งเขาต้องการให้ผมไปอยู่ที่นั่นไม่ใช่แค่คุมบอลเท่านั้น แต่อยากให้ไปช่วยพัฒนา​วงการกีฬา​ของ​จังหวัด​ด้วย

ฟังดูราวกับว่าวงการ​ฟุตบอลไทย​อิ่มตัวกับ​การพัฒนา​แล้ว บุคคลากร​ของไทยยินดีที่จะไปช่วยพัฒนาให้กับวงการของ​ประเทศเพื่อนบ้าน​เมื่อค่าตอบแทนดี แต่​ปัญหา​คือ​วงการ​ฟุตบอลไทย​ไม่ว่าจะ​ทีมชาติ​หรือ​ฟุตบอลอาชีพ​นั้น​ด้อยพัฒนา​อยู่มาก (ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีบุคคลากรที่มีคุณภาพมาช่วยพัฒนา!)

กุนซือทีมชาติไทย เผยต่อไปว่า บรรยากาศและความคลั่งไคล้เกมลูกหนังที่​ด่องทับ​จัดว่าคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เฉลี่ยต่อนัดจะมีคนเข้าไปชมเกมฟาดแข้ง​บอลลีก​กว่าหมื่นคน ขณะเดียวกันเขาก็ลงทุนจ้างนักเตะต่างชาติทั้งจาก​ไนจีเรีย, อุซเบกิสถาน และรัสเซีย เขามาอยู่ในทีม ซึ่งหากตนเข้าไปคุมก็สามารถตัดสินใจเลือกได้เลยว่าจะใช้งานนักเตะเหล่านี้ต่อหรือไม่ หรือจะนำ​นักเตะไทย ไปเสริมทีมด้วยก็ไฟเขียวให้เต็มที่

หมื่นคน!! ในขณะที่ใน​ประเทศไทย​มีคนดูน้อยกว่าคนเตะ! ก่อนที่จะ​พัฒนา​วงการฟุตบอล​บ้านเค้า ทำไมไม่​พัฒนา​วงการฟุตบอล​บ้านเราก่อนล่ะครับ อาจารย์ชาญวิทย์?

จะนำ​นักเตะไทย​ไปด้วย!! ตัวเองไม่​ช่วยชาติ​ไม่พอ จะพาคนเก่งๆคนอื่นไปจาก​ประเทศไทย​ด้วย? เอาเป็นว่าผมเข้าใจอาจารย์แล้วล่ะครับ ชาติมาทีหลังเงินมาก่อนจริงๆ

ปล 1. สมองไหล อันนี้เป็น​ปัญหา​ที่​ประเทศกำลังพัฒนา​ประสบเป็นอย่างมาก สาเหตุมักเกิดจากการที่ประเทศนั้นไม่สามารถให้ในสิ่งที่ประเทศอื่นสามารถมอบให้ได้ โดยมากมักเป็นรูปแบบของ​เงินตรา และ ความเป็นอยู่ที่ดีกว่า

ปล 2. ก็ไม่รู้ว่าการที่​ฟุตบอลไทย​มันด้อยพัฒนานั้นเป็นความผิดของใคร แต่​นายกสมาคม​ก็ยังเป็นคนเดียวคนเดิมมาสิบปีแล้ว คือนายวิจิตร เกตุแก้ว ผมว่าถ้าไม่ทำงานก็ออกไปเถอะ

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บอลไทยพัฒนาได้ถ้ายอมรับความจริงในจุดบอดของตัวเองอ.ชาญวิทย์มีความสามารถต่างป.ทจึงอยากได้ตัวไปไม่สมควรห้ามนะครับ เพราะอย่เมืองไทยทำอะไรไม่ได้เต็มที่ สู้ไปใช้ความสามารถให้โดดเด่นที่อื่นจะดีกว่ายิ่งอ.ใช้มากก็ยิ่งพัฒนามากผมปลงมานานแล้วครับสำหรับบอลไทย และที่คุณเขียนมานั่นถูกต้องที่สุดครับแต่มุมมองของผมดูในจุดของตัวนักกีฬาเป็นสำคัญสำหรับสมาคมไม่ต้องพูดถึงครับเพราะมันเป็นธรรมชาติที่หลายสมาคมเขาเป็นเหมือนกัน คือ ไม่รู้จะพัฒนาอะไร แถมทุกวันนี้ยังมองเพื่อนบ้านไม่ออกอีกนะครับว่าเขาคิดอะไรวางแผนอย่างไร รู้สึกเศร้าใจบอลไทยจริงๆ ครับ ความคิดเห็นของคุณเขาอ่านไม่รู้และไม่เข้าใจหรอกครับคำว่า งง ยังอยู่ในสมอง เอามือปิดหูปิดตาแล้วมือก็จะไม่จับอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน ขอให้คุณแสดงความคิดเห็นดีๆ ต่อไปนะครับเผือบางทีคนใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาจะเป็นแนวทางให้เขา

burlight กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็น เรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลไทย ผมมีแสดงความคิดเห็นเพิ่มอีกที่ประเทศไทยพัฒนาครับ :)